หอไอเฟล สร้างขึ้นมาเพื่ออะไร? ใครเป็นคนสร้าง

Eiffel Tower

ประติมากรรมเลื่องชื่อแห่งมหานครปารีส

                  อลังการโดดเด่นท้าทายแดดฝนมากว่าร้อยปีบนชองป์ เดอ มารส์ ริมแม่น้ำเซนในมหานครปารีส นี่คือสัญลักษณ์อันดับหนึ่งของมหานครที่มีสีสันที่สุดอีกแห่งหนึ่งของโลก และยังเป็นหนึ่งในสิ่งก่อสร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลกอีกด้วย...

Eiffel Tower

                  ในปี พ.ศ. 2430 หอไอเฟล (Eiffel Tower หรือ Tour Eiffel) ถูกวางแผนสร้างขึ้นโดยความต้องการที่จะให้กลายเป็นสัญลักษณ์ของการจัดงานแสดงสินค้าโลกที่จะมีขึ้นในอีก 2 ปีหลังจากนั้น ณ กรุงปารีส และเพื่อฉลองครบรอบร้อยปีแห่งการปฏิวัตินองเลือดในฝรั่งเศส จึงได้คิดจัดงานเพื่อแสดงถึงความยิ่งใหญ่ และแน่นอนว่าต้องมีการจัดสร้างงานศิลปะชิ้นเอกที่แสดงออกถึงความสำเร็จทางวิศวกรรม และนี่ก็คือที่มาของหอไอเฟลนั่นเอง

ประติมากรรมชิ้นนี้ถูกวางแผนออกแบบโดยสถาปนิกผู้มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสในยุคนั้น นั่นคือ กุสตาฟ ไอเฟล (Gustave Eiffel) แต่กุสตาฟก็ต้องทำงานภายใต้แรงกดดันอย่างหนัก เพราะส่วนหนึ่งมีกระแสต่อต้านอย่างประชาชนชาวฝรั่งเศสอย่างหนักที่ไม่เห็นด้วยกับการที่จะมีสิ่งก่อสร้างใหญ่ยักษ์ชิ้นนี้เกิดขึ้นจนไปบดบังทัศนียภาพและความงดงามของมหานครปารีส

กุสตาฟมีทีมวิศวกรร่วมงานอีก 2 คน คือ เวอร์ริส คล็อกลิน และ เอมิล นูลจิเย กุสตาฟเริ่มร่างแบบโครงสร้างของหอคอย และมี สตีเฟน สเตาว์เธอร์ สถาปนิกช่วยออกแบบส่วนตกแต่งเพิ่มเติมด้วยแนวคิดที่จะให้หอคอยสูงแห่งนี้มีมุมโค้งมนคล้ายช่อดอกไม้ ในอดีตขณะนั้นยังไม่เคยมีใครคิดสร้างหอคอยหรือสิ่งก่อสร้างที่สูงเกินกว่า 1,000 ฟุตมาก่อนเลย ครั้งนี้คือความท้าทายของกุสตาฟ ที่แม้จะถูกหยามอยู่บ้างว่าเป็นประติมากรรมที่ไม่ได้สวยงามหรือดูดีในแง่ของศิลปะเอาเสียเลย

แต่ภาพความยิ่งใหญ่อลังการสูงเสียดฟ้าและงามสง่าของหอคอยที่อยู่ในจินตนาการของกุสลาฟทำให้เขาดำเนินการต่อไป นี่เป็นอีกหนึ่งความท้าทายความสามารถของมนุษย์ในยุคที่จะสร้างหอคอยสูงกว่า 1,000 ฟุตด้วยแนวความคิดที่จะขึ้นไปแตะแผ่นฟ้าให้ได้ ยุคนั้นวิทยาการการก่อสร้างสถาปัตยกรรมต่างๆ ยังไม่ง่ายดายเท่ากับในปัจจุบัน ยิ่งเป็นงานออกแบบที่ใช้ลักษณะของการนำเหล็กกล้ามาถักทอรวมกันขึ้นเป็นโครงเช่นนี้ด้วยแล้ว ดูอย่างไรก็หาความง่ายแทบไม่เจอ

การก่อสร้างเป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในทุกขั้นตอนการก่อสร้าง เนื่องจากหอไอเฟลมีลักษณะเป็นหอคอยเปลือย ไม่มีแบ่งชั้นแต่กลับเป็นโครงเหล็กทะยานสูงเสียดฟ้า จึงไม่ง่ายเหมือนการก่อสร้างอาคารทั่วไป แต่กระนั้นก็มีการเตรียมพร้อมรักษาความปลอดภัยในการก่อสร้างอย่างดี เมื่อหอไอเฟลสร้างจนเสร็จสมบูรณ์จึงพบว่ามีคนงานเสียชีวิตจากการก่อสร้างครั้งนี้เพียงคนเดียวเท่านั้น

ใช้เวลาก่อสร้างนาน 2 ปี ในที่สุดหอไอเฟลก็เปิดตัวในปี พ.ศ. 2432 กลายเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลก จนถูกบันทึกสถิติแทนอนุสาวรีย์วอชิงตันที่เคยขึ้นทำเนียบสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกมาก่อน หอไอเฟลมีความสูง 986 ฟุต (300 เมตร) มีเสาอากาศที่สูงขึ้นไปอีก 72 ฟุต (24 เมตร) เปรียบเทียบความสูงแล้วจะมีความสูงเท่ากับตึก 80 ชั้น ใช้โลหะ 15,000 ชิ้น ยึดต่อกันด้วยสกรู 2,500,000 ตัว ปริมาณสีที่ใช้ทา 35 ตัน ใช้เงินค่าก่อสร้างเกือบ 8 ล้านฟรังก์ น้ำหนักรวมกว่า 7,000 ตัน

ทันทีที่สร้างเสร็จ กุสตาฟ ไอเฟล เป็นคนแรกที่เดินขึ้นบันได 1,710 ขั้นของหอไอเฟลเพื่อขึ้นไปบนจุดสูงสุดแล้วแขวนธงชาติฝรั่งเศสแสดงถึงการเปิดตัวประติมากรรมชิ้นเอกในนาม หอไอเฟล ตั้งแต่นั้นมา และยังได้มีการตั้งศูนย์รับส่งสัญญานวิทยุขึ้นที่หอไอเฟล เพราะความสูงที่ช่วยให้สามารถรับส่งสัญญาณวิทยุได้ไกลถึงอเมริกาเหนือ และแม้จะถูกรื้อออกในภายหลัง แต่ก็ยังหลงเหลือเสาอากาศให้เห็นถึงปัจจุบัน และยังมีลิฟต์ขึ้นไปจนถึงยอดหอเพื่อชมวิวทั่วทั้งมหานครปารีสได้อย่างชัดเจน

หอไอเฟลครองตำแหน่งสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกอยู่นานจนถึงปี พ.ศ. 2473 ก็ต้องเสียตำแหน่งให้กับ ตึกไครส์เลอร์ แห่งมหานครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ที่สูง 319 เมตร (1047 ฟุต) ปัจจุบันหอไอเฟลมีความสูงเป็นอันดับ 5 ในฝรั่งเศส แต่ก็ยังถือว่าสูงที่สุดในปารีสอยู่ดี และปัจจุบัน หอคอยไอเฟลมีนักท่องเที่ยวเยี่ยมเข้าชมประมาณ 5.5 ล้านคนต่อปี และส่งผลให้ตั้งแต่ก่อสร้างจนถึงทุกวันนี้ มีนักท่องเที่ยวเข้าชมหอไอเฟลมาแล้วมากกว่า 200 ล้านคน และยังนับหอไอเฟลเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่อีกด้วย

แม้จะไม่ได้ยืนอยู่ในตำแหน่งของสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกอย่างที่เคยเป็นมาก่อน แต่หอไอเฟล กลับมีเสน่ห์ยิ่งกว่านั้น ความวิจิตรบรรจงที่ทำให้เหล็กกล้ากลับดูอ่อนพลิ้วงดงาม ความยิ่งใหญ่ด้วยฝีมือของนักออกแบบยุคก่อน ช่วยดึงดูดคนทั่วโลกให้หลั่งไหลมาสัมผัสกับประติมากรรมที่ยิ่งใหญ่ชิ้นนี้ของโลกอยู่ตลอดเวลา